สถานการณ์โรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในปัจจุบัน
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization; WHO) ณ วันที่ 3 มกราคม 2568
รายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ทั่วโลก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 - 12 ธันวาคม 2567
พบผู้ป่วยสะสม 954 ราย เสียชีวิต 464 ราย (อัตราป่วยตาย ร้อยละ 49) ใน 24 ประเทศ และข้อมูลจาก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (The United States Centers for Disease Control and
Prevention; U.S. CDC) ณ วันที่ 3 มกราคม 2568 รายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกสะสมในปี พ.ศ2567 ถึงปัจจุบัน
จำนวน 66 ราย ใน 10 รัฐ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการสัมผัสโคนมที่ติดเชื้อ 40 ราย สัมผัสสัตว์ปีกที่ติดเชื้อ 23 ราย
สัมผัสสัตว์อื่นๆ 1 ราย และไม่ระบุแหล่งที่มาของการติดเชื้อ 2 ราย
สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในประเทศเพื่อนบ้าน ในปี พ.ศ. 2567 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1
ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เสียชีวิต 1 ราย และราชอาณาจักรกัมพูชา 10 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยทุกราย
มีความเชื่อมโยงกับสัตว์ปีกติดเชื้อ หรือสัตว์ปีกป่วยตาย ล่าสุดพบการรายงานโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1
และ H9 ในเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในเป็ดที่นำเข้ามาจากพื้นที่อื่น
เพื่อจำหน่าย นอกจากนี้ยังพบการรายงานโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีก นกธรรมชาติ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มสูงขึ้น
สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในประเทศไทย ไม่พบโรคไข้หวัดนกในคนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา
จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ประเทศไทยยังมีความเสียงต่อการติดเชื้อไข้หวัดนก ด้วยมีปัจจัย
ทางภูมิศาสตร์ และปัจจัยเอื้อหลายด้าน เช่น มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการระบาด มีการเดินทาง
ระหว่างประเทศ มีการค้าขายและเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกมีชีวิต และมีพื้นที่เลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่น รวมถึงการอพยพยพ
ของนกธรรมชาติ